เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต [2.ทุติยปัณณาสก์] 1.โคตมีวรรค 3.สังขิตตสูตร
3. เป็นผู้ทรงจำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดี จำแนกได้ดี ให้เป็นไปได้ดีโดย
พิสดาร วินิจฉัยได้ดีโดยสูตร โดยอนุพยัญชนะ1
4. เป็นผู้มีวาจางาม เจรจาถ้อยคำไพเราะ ประกอบด้วยวาจาชาวเมือง
ที่สละสลวย ไม่มีโทษ ให้รู้ความหมายได้
5. เป็นผู้สามารถที่จะชี้แจงให้ภิกษุณีสงฆ์เห็นชัด ชวนใจให้อยากรับเอา
ไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริง
ด้วยธรรมีกถา
6. เป็นที่รักเป็นที่ชอบใจของภิกษุณีโดยมาก
7. เป็นผู้ไม่เคยประพฤติล่วงครุธรรม2 ในสตรีผู้นุ่งห่มผ้ากาสายะบวชอุทิศ
พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้
8. มีพรรษา 20 หรือเกิน 20
อานนท์ ภิกษุประกอบด้วยธรรม 8 ประการนี้แล สงฆ์จึงควรสมมติให้เป็นผู้
สั่งสอนภิกษุณี”
โอวาทสูตรที่ 2 จบ

3. สังขิตตสูตร
ว่าด้วยลักษณะธรรมวินัยโดยย่อ3
[53] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน
เขตกรุงเวสาลี ครั้งนั้นแล พระนางมหาปชาบดีโคตมีได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มี
พระภาคดังนี้ว่า

เชิงอรรถ :
1 ดูเชิงอรรถที่ 2 ในสัตตกนิบาต ข้อ 76 (ทุติยวินยสูตร) หน้า 173 ในเล่มนี้
2 เป็นผู้ไม่เคยประพฤติล่วงครุธรรม หมายถึงในสมัยที่เป็นคฤหัสถ์ ไม่เคยจับต้องกายภิกษุณี ไม่เคย
ประพฤติผิดประเวณีกับนางสิกขมานาหรือสามเณรี (วิ.อ. 2/145-147/319, องฺ.อฏฺฐก.อ. 3/52/265)
3 วิ.จู. (แปล) 7/406/322-323

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :338 }